• ปริญญาโท MSc Management Cass Business School, USA
นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน
ฉบับปรับปรุงวันที่ [ ]
1. บททั่วไป
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด (“บริษัท”) จึงจัดทำนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน (“นโยบายฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านผู้ถือหุ้น และผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นของบริษัท (“ท่าน”) ทราบถึงวิธีการ ความจำเป็นและเงื่อนไขที่บริษัทจะปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตลอดจนแจ้งสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัท ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้นโยบายฯ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
2. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัท ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้นโยบายฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัท ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วยผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุน ที่เป็นบุคคลธรรมดา รวมถึงผู้รับมอบฉันทะในการเข้าร่วมประชุมแทนผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนดังกล่าว
3. วิธีที่บริษัท เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทาง ดังนี้ (ก) บริษัทอาจได้รับข้อมูลของท่านโดยตรง เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านช่องทางหรือโดยวิธีการอื่นใด หรือ (ข) จากการตรวจสอบสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งบริษัทมีหน้าที่เก็บและรวบรวมตามกฎหมาย โดยอาจรวมถึงกรณีที่บริษัทอาจได้รับข้อมูลของท่านตามทะเบียนผู้ถือหุ้นจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัดที่ให้บริการนายทะเบียนหลักทรัพย์ให้แก่บริษัท
4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นต้องประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้นโยบายฯ ฉบับนี้ ได้แก่
4.1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับท่านในฐานะผู้ถือหุ้น กล่าวคือ ชื่อ นามสกุล สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ปัจจุบัน จำนวนหุ้นที่ถือ ข้อมูลบัญชีธนาคารของท่าน เลขประจำตัวประชาชน อีเมล และเบอร์ติดต่อ
4.2 กรณีที่ท่านเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ตามนิยามที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแล ได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม ได้แก่ ประวัติของท่าน (ได้แก่ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน เป็นต้น) และรูปถ่ายของท่านหรือตัวแทนของผู้ถือหุ้นนิติบุคคลดังกล่าว
4.3 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับท่านในฐานะผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน ที่ท่านอาจให้แก่บริษัทระหว่างการติดต่อสื่อสารหรือบทสนทนาที่ท่านอาจมีกับบริษัทผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ชื่อ นามสกุล สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ และข้อมูลการติดต่อท่าน (ได้แก่ เบอร์โทรศัพท์ และ/หรือ อีเมล)
4.4 ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมที่ผู้ถือหุ้นดังกล่าวเข้าร่วมในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม ที่อาจรวมถึงข้อมูลของผู้รับมอบฉันทะแทนผู้ถือหุ้น พร้อมทั้งการบันทึกภาพและเสียงระหว่างการเข้าร่วมประชุม ทั้งในรูปแบบการประชุมแบบออนไลน์และออฟไลน์
4.5 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ท่านอาจยินยอมและนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะอื่น ๆ
5. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทตกลงประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
5.1 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทมีต่อท่านตามสิทธิของผู้ถือหุ้น เช่น การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การเริ่มตั้ง การเพิ่มทุน ลดทุน การปรับโครงสร้างกิจการ การเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การส่งหนังสือเชิญประชุมหรือหนังสือบอกกล่าวอื่น ๆ เพื่อการแจ้งสิทธิของผู้ถือหุ้นภายใต้กฎหมาย เช่น หนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท หนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น หรือการส่งบทรายงานการประกอบธุรกิจของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสิทธิที่ผู้ถือหุ้นมีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการแบ่งปันและจำหน่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องและมีสิทธิ การจัดทำบัญชีและรายงาน การตรวจสอบเอกสารตามกฎหมาย รวมถึงหน้าที่ตามกฎหมายต่าง ๆ ของบริษัทมหาชนจำกัด และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ต่อผู้ถือหุ้นดังกล่าว บริษัทย่อมมีความจำเป็นต้องยืนยันตัวตนของท่านหรือผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบฉันทะของท่านในการแสดงสิทธิในการเป็นผู้ถือหุ้นที่จะเข้าใช้สิทธิต่าง ๆ เช่น การใช้สิทธิในการเข้าร่วมประชุม หรือสิทธิในการโอนหุ้น เป็นต้น
5.2 เพื่อการจัดการตอบรับการสื่อสารที่ท่านติดต่อบริษัท เช่น เพื่อการแจ้งหรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารงานของบริษัทที่อาจมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงทุนและความเป็นผู้ถือหุ้นของท่าน เพื่อการติดต่อสื่อสารและตอบข้อสอบถามของท่าน การจัดการข้อร้องเรียน การใช้สิทธิผู้ถือหุ้น หรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น
5.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น เช่น การบริหารจัดการบริษัทในการวิเคราะห์โครงสร้างผู้ถือหุ้น เพื่อการบันทึกการจัดและการบริหารการประชุม เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม การบันทึกการลงมติ การบันทึกภาพเสียง และ/หรือวีดีโอระหว่างการประชุมเพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่การประชุมผ่านเว็บไซต์ของบริษัทและช่องทางการติดต่ออื่น ๆ ซึ่งถือเป็นกรณีการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายเพื่อรับประกันความโปร่งใสและธรรมาภิบาลของบริษัทรวมถึงเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น เป็นต้น และรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล การดำเนินกิจกรรมและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ถือหุ้นในกรณีการจัดกิจกรรมพิเศษอื่นที่บริษัทอาจจัดให้แก่ท่านในฐานะผู้ถือหุ้น การบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในองค์กร การกำกับการตรวจสอบ ตลอดจนการตรวจสอบภายในรวมถึงการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
5.4 โดยเฉพาะกรณีของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ตามนิยามที่กำหนดไว้ เพื่อการจัดทำเอกสารรายงานประจำปีของบริษัทตามที่บริษัทมีหน้าที่ต้องจัดทำและอาจต้องจัดส่งให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเปิดเผยเป็นสาธารณะตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ซึ่งอาจรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัท
เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนด ตามข้อ 5 ทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวเนื่องและจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์การปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัท ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทอาจมีต่อท่านในฐานะผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 กลุ่มบุคคลที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงาน ดังต่อไปนี้
(1) ผู้ถือหุ้นอื่นของบริษัทที่มีสิทธิในการขอตรวจสอบบันทึกภาพและเสียงที่บันทึกจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอันเป็นสิทธิตามกฎหมายของผู้ถือหุ้น โดยบริษัทจะรับประกันไม่ให้กระทบสิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอื่นมากเกินสมควร
(2) ข้อมูลของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ตามนิยามที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลของท่านอาจต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่สาธารณะ โดยบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
(3) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย บริการทำการตลาด หรือบริการอื่น ใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงที่ปรึกษาของบริษัท อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการนายทะเบียนหลักทรัพย์ของบริษัท
(4) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล เป็นต้น
(5) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือหน่วยงานนั้น ๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัท ให้แก่ประชาชนทั่วไป
6.2 กรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน
6.3 การรักษาความมั่นคงปลอดภัย ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐาน และหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัท อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
7. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 กรอบระยะเวลาการเก็บรักษา บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยเฉพาะตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่ท่านยังมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท และที่บริษัทยังมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องปฏิบัติสิทธิให้แก่ท่าน หรือตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายอื่นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคลของท่านไว้
7.2 การดำเนินการภายหลังครบกำหนดระยะเวลา หลังจากครบกำหนดระยะเวลาที่จำเป็น บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น บริษัท จะตรวจสอบ และใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทําลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกนําไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
9. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
9.1 สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัท ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ และ (8) สิทธิในการร้องเรียน
9.2 การติดต่อ หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัท เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัท โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 10 ของนโยบายฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัท ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
10. วิธีการติดต่อบริษัท
บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท ผ่านช่องทาง ดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัท หรือ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 223/53 อาคารคันทรี่คอมเพล็กซ์ เอ ชั้น 13 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
อีเมล : dpo@a2-tech.com
เบอร์โทรศัพท์ 02-361-5494-5
11. การเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้
บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับนโยบายฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัท ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ ฉบับนี้เป็นระยะ